November 22, 2015

Cloud Atlas: เมฆาสัญจร


Cloud Atlas เมฆาสัญจร
David Mitchell เขียน
จุฑามาศ แอนเนียน แปล
สำนักพิมพ์มติชน

สาเหตุที่หยิบหนังสือเล่มยักษ์ที่ดูท่าทางอ่านยากเรื่องนี้ขึ้นมาอ่านเป็นเพราะว่าได้ข่าวว่ากำลังมีการสร้างภาพยนตร์จากหนังสือเล่มนี้ และจากที่ได้ชมเทรลเลอร์บางส่วน ตั้งใจว่าจะอ่านหนังสือให้จบแล้วค่อยดูเวอร์ชั่นภาพยนตร์ แต่จนแล้วจนรอดจนเขียนเอนทรี่นี้เสร็จเจ้าของบล็อคก็ยังไม่มีโอกาสได้ชมภาพยนตร์เลยสักครั้ง

สารภาพตามตรงว่าเป็นหนังสือที่อ่านยากมากและไม่ใช่แนวเลยแม้แต่น้อย ที่มาเขียนรีวิวก็เป็นเพราะว่าประทับใจในการเล่าเรื่องที่มีความพิเศษกว่าหนังสือเรื่องอื่นๆที่เราเคยอ่านมา และการเชื่อมโยงกันระหว่างเรื่องสั้นทั้ง 6 เรื่อง  เพราะฉะนั้นถ้าจะถามหาการรีวิวแบบตีความที่ลึกล้ำนั้นก็ขอบอกเลยว่าไม่มี (ฮา)


Cloud Atlas ประกอบด้วยเรื่องสั้น 6 เรื่อง 

  1. บันทึกท่องแปซิฟิกของอดัม อีวิง
  2. จดหมายจากเซเดลเกม
  3. ครึ่งชีวิต-เรื่องลึกลับองหลุยซา เรย์
  4. วิบากกรรมสยองของทิโมธี คาเวนดิช
  5. คำให้การของซอนมี~451
  6. ช่องสลูซาและเรื่องต่อมาหลังจากนั้น

และมีการเรียงลำดับเนื้องเรื่องแบบ 1 2 3 4 5 6 5 4 3 2 1 แต่ละตอนจะแบ่งออกเป็นสองบท โดยมีตอนช่องสลูซาฯขั้นกลางและเป็นเพียงตอนเดียวที่จบในบท ถ้าจะเรียงลำดับตอนตามหนังสือก็จะได้ประมาณนี้

  1. บันทึกท่องแปซิฟิกของอดัม อีวิง (ตอนต้น)
  2. จดหมายจากเซเดลเกม (ตอนต้น)
  3. ครึ่งชีวิต-เรื่องลึกลับองหลุยซา เรย์ (ตอนต้น)
  4. วิบากกรรมสยองของทิโมธี คาเวนดิช (ตอนต้น)
  5. คำให้การของซอนมี~451 (ตอนต้น)
  6. ช่องสลูซาและเรื่องต่อมาหลังจากนั้น
  7. คำให้การของซอนมี~451 (ตอนท้าย)
  8. วิบากกรรมสยองของทิโมธี คาเวนดิช (ตอนท้าย)
  9. ครึ่งชีวิต-เรื่องลึกลับองหลุยซา เรย์ (ตอนท้าย)  
  10. วิบากกรรมสยองของทิโมธี คาเวนดิช (ตอนท้าย)
  11. จดหมายจากเซเดลเกม (ตอนท้าย) 
  12. บันทึกท่องแปซิฟิกของอดัม อีวิง (ตอนท้าย)

เรื่องสั้นทั้ง 6 เกิดขึ้นต่างยุคสมัยกัน และแทบจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย ตัวเอกของแต่ละตอนต่างก็มีปานรูปดาวหางเป็นจุดที่เหมือนกัน จะยกเว้นก็แต่ตอนช่องสลูซาฯเท่านั้นที่คนที่มีปานรูปดาวหางคือเมโรนิมไม่ใช่แซครีที่เป็นผู้เล่าเรื่อง นอกจากนี้ยังมีการส่งต่อเรื่องราวของตอนก่อนหน้ามายังตอนถัดมาผ่านทางสื่อต่างๆ เช่น โฟรบิชเชอร์ได้อ่านบันทึกของอดัม อีวิง, หลุยซาได้ฟังแผ่นเสียงของเพลงที่โฟรบิชเชอร์แต่งทิ้งไว้, ทิโมธีได้อ่านนิยายเรื่องครึ่งชีวิตของหลุยซา, ซอนมีได้ดูหนังที่สร้างจากเรื่องของทิโมธี ทั้งสองสิ่งนี้เป็นจุดเชื่อมโยงเรื่องราวทั้ง 6 เข้าด้วยกัน 

บันทึกท่องแปซิฟิกของอดัม อีวิง
เรื่องแรกของเรื่องสั้นทั้ง 6 อดัม อีวิง ทนายชาวอเมริกันได้เขียนบันทึกเรื่องราวของตนขณะโดยสารเรือมายังหมู่เกาะในทะเลแปซิฟิก ที่นั่นเขาได้พบกับนายแพทย์เฮนรี่ กูส และได้ช่วยเหลือชาวเผ่าโมริโอรินามเอาทัวเอาไว้
  
จดหมายจากเซเดลเกม
ในปี 1931 จดหมายจากโรเบิร์ต โฟรบิชเชอร์นักเรียนอุปรากรตกอับ ที่ส่งถึงเพื่อนรัก รูฟัส ซิกซ์สมิธ ว่าด้วยเรื่องที่ตนเองดั้นด้นมายังคฤหาสน์เซเดลเกมที่เป็นที่อยู่องวิฟเวียน แอร์ส อดีตนักอุปรากรชื่อดังที่ตอนนี้ตกอับเพราะโรคร้าย โฟรบิชเชอร์ตั้งใจจะมาขอให้แอร์สรับตนไว้ทำหน้าที่เป็นอาลักษณ์เพื่อจะได้เรียนรู้วิชาดนตรีจากแอร์ส

ครึ่งชีวิต-เรื่องลึกลับองหลุยซา เรย์
หลุยซา เรย์ ลูกสาวของนักข่าวสงครามผู้โด่งดัง เธอได้พบกับซิกซ์สมิธนักวิทยาศาสตร์ผู้กุมความลับของสถานีพลังงานนิวเคลียร์สวอนเนกก์ นั่นทำให้เธอได้เริ่มต้นสืบเรื่องราวไม่ชอบมาพากลของสถานีพลังงานนิวเคลียร์แห่งนี้ ซึ่งงานนี้จะทำให้เธอตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต

วิบากกรรมสยองของทิโมธี คาเวนดิช
เจ้าของสำนักพิมพ์วัยชรา ทิโมธี คาเวนดิช ผู้ต้องการหนีเจ้าหนี้จนต้องหันไปพึ่งน้องชายที่ไม่ค่อยกินเส้นกันเท่าไหร่ น้องชายของเขาเสนอที่กบดานปลอดภัยแห่งหนึ่งให้ ทิโมธีตอบตกลงทันทีโดยไม่สงสัย แต่ทว่าสถานที่แห่งนั้นกลับกลายเป็นบ้านพักคนชรา ทิโมธีรู้สึกเหมือนถูกจับมาเข้าคุก เขาจะต้องหนีออกไปจากสถานที่แห่งนี้ให้ได้

คำให้การของซอนมี~451
ซอนมี~451 เป็นมนุษย์สังเคราะห์ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีวิวัฒนาการก้าวหน้า เธอถูกจับมาสอบสวนข้อหาก่อกบฎเพื่อปลดปล่อยตัวเองจากการเป็นทาสของมนุษย์พันธุ์แท้

ช่องสลูซาและเรื่องต่อมาหลังจากนั้น
เรื่องเล่าของแซครีในยุคสมัยที่อารยธรรมล่มสลายไปแล้ว 

เนื้อเรื่องมีลักษณะการเล่าแบบวนลูป ราวกับจะบอกว่าประวัติศาสตร์ของมนุษยชาตินั้นก็วนอยู่ที่เดิม คนป่า/คนเถื่อน -> เริ่มต้นสร้างอารยธรรม -> รุ่งเรือง -> รุ่งเรืองแบบสุดๆเทคโนโลยีล้ำยุค -> ล่มสลาย แล้วก็กลับมาสู่ยุคคนป่าอีกครั้ง วนเวียนไปมาอย่างนี้เรื่อยๆ ไม่ว่าจะพัฒนาไปไกลแค่นั้น มนุษย์ก็ยังคงทำผิดซ้ำรอยเดิม การทรยศหักหลัง, ทาส, เหยียดผิว, การกดขี่ผู้ที่อ่อนแอกว่า เรื่องพวกนี้ก็ยังปรากฎอยู่ในทุกยุคทุกสมัย 

ถ้าจะว่าถึงความชอบส่วนตัว ตอนของอดัม อีวิงสำหรับเราแล้วอ่านยากที่สุด อัดแน่นไปด้วยเนื้อหาอิงประวัติศาสตร์ของชนเผ่าต่างๆ แถมภาษายังออกแนวโบราณๆหน่อย อ่านไปได้ 3-4 หน้าก็ถึงกับต้องเลิกอ่านไป 1 อาทิตย์เต็มๆ พอทำใจได้แล้วก็เริ่มกลับมาอ่านใหม่ เกือบอ่านเล่มนี้ไม่จบเพราะพ่ออีวิงนี่แหละ (ฮา) พอมาถึงตอนของโฟรบิชเชอร์นี่ได้ความวายระหว่างโฟรบิชเชอร์กับซิกซ์สมิธช่วยชีวิตแท้ๆ ทำให้การอ่านหนังสือเล่มนี้ของเราเดินหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว ตอนที่ชอบที่สุดคือตอนของหลุยซาอ่านง่ายแบบไม่ต้องคิดอะไรมากดีเช่นเดียวกันกับตอนชองทิโมธี ส่วนตอนของซอนมีกับแซครีนั้นแนวคิดล้ำเกินไปกว่าที่สมองอันน้อยนิดของเราจะเข้าใจได้เป็นสองตอนที่อ่านยังไงก็ไม่เข้าใจ



ปล. เจ้าของบล็อคจะพยายามหาหนังเรื่องนี้มาดูให้ได้ และถ้ามีโอกาสก็จะเขียนเกี่ยวกับฉบับภาพยนตร์อีกครั้ง
ปล2. อยากเขียนเวิ่นเว้อถึงโฟรบิชเชอร์กับซิกซ์สมิธด้วย แต่คงเป็นหลังจากตอนที่ได้ดูหนังแล้วเช่นกัน (แอบชอบพี่เบน วิชอว์ที่แสดงเป็นโฟรบิชเชอร์ล่ะ)

0 comments:

Post a Comment